นโยบายความเป็นส่วนตัว
บริษัทนาถธรา
บิสิเนส โซลูชั่นซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัท” ซึ่งเป็นเจ้าของเว็บไซต์ eaequipให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของท่าน โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้อธิบายแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม
ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงสิทธิต่าง ๆ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ขอขอบคุณที่ท่านไว้วางใจใช้บริการของเรา
เราใส่ใจและให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
พ.ศ. 2562 ที่มีผลใช้บังคับโดยสมบูรณ์เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม
2566
นิยาม
ก. “บริษัท” หมายถึง บริษัทนาถธรา
บิสิเนส โซลูชั่น
ข. “ลูกค้า” หมายถึง ผู้ที่เข้ามาใช้บริการในเว็บไซต์ ผู้เข้ามาเยี่ยมชมในเว็บไซต์
หรือสมาชิกของเว็บไซต์
ค. “บริการ” หมายถึง
การสั่งซื้อสินค้าทางเว็บไซต์และจัดส่งสินค้านี้
ง. “เว็บไซต์” หมายถึง เว็บไซต์ชื่อว่า https://eaequip.com
จ. “ข้อมูล” หมายถึง ข้อมูล ข้อความ
บทความ รูปภาพ วิดีโอ เสียง สัญลักษณ์ กราฟฟิก โลโก้
เครื่องหมายการค้า การออกแบบ และการสื่อสารทุกรูปแบบในเว็บไซต์
ฉ. “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้
ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
การเก็บและรวบรวมข้อมูล
ในการให้บริการของเรา เราได้เก็บรวบรวม
เก็บรักษาและใช้ข้อมูลของท่านดังต่อไปนี้
1.
ข้อมูลที่ใช้ระบุตัวตน: ชื่อ และนามสกุล เพศ วันเกิด สถานภาพสมรส
หมายเลขประจำตัวประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขระบุตัวตนอื่นๆ
ที่ออกโดยรัฐบาล รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ปรากฏบนเอกสารที่ออกโดยรัฐบาล
เอกสารบริษัทที่ประกอบด้วยข้อมูลของผู้มีอำนาจบริษัทซึ่งออกโดยหน่วยงานที่มีอำนาจ
2.
ข้อมูลการติดต่อ: หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หมายเลขโทรศัพท์บ้าน
หมายเลขโทรศัพท์ที่ทำงาน หมายเลขโทรสารที่บ้าน หมายเลขโทรสารที่ทำงาน อีเมล
บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
ที่อยู่ที่ทำงาน
3.
ข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ : ข้อมูลตามแบบฟอร์ม แบบสอบถามต่าง ๆ ข้อมูลความคิดเห็น
ความพึงพอใจ หรือข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับการติดต่อสอบถามหรือคำขอต่าง ๆ
ที่ท่านแจ้งไว้กับเรา
4.
ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์: ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ (Log) และข้อมูลที่บริษัท ได้เก็บรวบรวมผ่านคุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นที่คล้ายคลึงกัน อาทิ ข้อมูลการเข้าใช้งานเว็บไซต์
แอปพลิเคชัน และระบบต่าง ๆ ตัวระบุอุปกรณ์ หมายเลข IP ของคอมพิวเตอร์
ข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง ประเภทของเบราว์เซอร์ และพฤติกรรมการใช้งาน
วัตถุประสงค์การนำข้อมูลไปใช้
1. เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าทุกท่านในการสมัครสมาชิก
2. เพื่อทำการจัดส่งสินค้าให้ลูกค้าได้อย่างถูกต้อง
3. เพื่อติดต่อลูกค้าในกรณีต่าง
ๆ
4.
เพื่อสอบถามปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
5.
เพื่อแจ้งโปรโมชั่น ข่าวสาร สิทธิประโยชน์แก่ลูกค้า
6.
เพื่อเก็บข้อมูลสถิติไว้ใช้
7.
เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาการตลาด
8. เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านสามารถเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ
ที่จัดขึ้นบนเว็บไซต์
9. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย
ระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บข้อมูลของท่านเป็นไปตามระยะเวลาการเก็บรักษาและความจำเป็นในการใช้ข้อมูลของเรา
ในระหว่างที่ท่านยังใช้บริการของบริษัทและยังคงเป็นลูกค้าของบริษัทอยู่
หรือยังเก็บไว้ตลอดจนถึงระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายความปลอดภัยฉบับนี้
ซึ่งอาจจำเป็นต้องเก็บรักษาไว้ต่อไป และอาจเก็บต่อไปตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือตามอายุความทางกฎหมาย
เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม
หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หลังจากพ้นความจำเป็นดังกล่าวบริษัทจะทำการลบหรือทำลายข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของคุณ
วิธีการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทมีมาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างเหมาะสมตามหลักการ การรักษาความลับ (confidentiality) ความถูกต้องครบถ้วน
(integrity) และสภาพพร้อมใช้งาน (availability) ทั้งในเชิงเทคนิคและการบริหารจัดการ
เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลสูญหาย หรือมีการเข้าถึง ทำลาย ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต
การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ทางบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้แก่บุคคลภายใต้ความยินยอมของคุณหรือที่กฎหมายอนุญาตให้เปิดเผยได้
ดังวัตถุประสงค์ต่อไปนี้
1. อาจมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณภายในบริษัทเท่าที่จำเป็นเพื่อปรับปรุงและพัฒนาสินค้าหรือบริการของเรา
2. ในกรณีที่มีการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่นหรือบริษัทอื่นที่เกี่ยวข้องอาจมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาทิเช่น
ผู้ตรวจสอบบัญชี
ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ หรือผู้เชี่ยวชาญอื่นใด ทั้งภายในและภายนอกกลุ่มบริษัท
3.
อาจมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณบางอย่างให้กับผู้ให้บริการของเราเท่าที่จำเป็นเพื่อดำเนินงานในด้านต่าง
ๆ เช่น
บริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บริการเว็บไซต์ บริการเก็บบันทึกข้อมูล
4. ในกรณีที่มีกฎหมายหรือหน่วยงานราชการร้องขอ
อาจมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเท่าที่จำเป็นให้แก่หน่วยงานราชการหน่วยงานราชการ หน่วยงานของรัฐ องค์กรอิสระ หน่วยงานกำกับดูแล
หรือหน่วยงาน อื่นตามที่กฎหมายกำหนด รวมถึงเจ้าพนักงานซึ่งใช้อำนาจตามกฎหมาย เช่น
ศาล สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสรรพากร
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เป็นต้น
สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
1.
สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม (right to withdraw consent)
ในกรณีที่บริษัทมีการขอการยินยอมจากลูกค้า
ลูกค้าทุกท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมได้เช่นเดียวกัน
2.
สิทธิในการขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล (right to access)
ลูกค้าทุกท่านมีสิทธิขอเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวกับตนเองหรือขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลของตน
แต่ก็สามารถปฏิเสธได้เมื่อการปฏิเสธนั้นเป็นไปตามคำสั่งศาลหรือกฎหมายหรือเป็นการขอที่เข้าข่ายอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่น
3. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล
(right
to rectification)
ลูกค้าทุกท่านสามารถใช้สิทธิในการร้องขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้องหรือเป็นปัจจุบันสมบูรณ์และเพื่อไม่ให้ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
4. สิทธิในการขอให้ลบหรือทำลายข้อมูล
(right
to erasure/destruction)
ลูกค้าทุกท่านสามารถใช้สิทธิในการร้องขอให้ลบหรือทำลายข้อมูลของตนเองได้
เมื่อมีการร้องขอมา ทางบริษัทจะต้องปฏิบัติตามโดยการลบข้อมูลหรือทำลายข้อมูล
ตามที่ท่านได้มีการร้องขอมา แต่ทางบริษัทสามารถปฏิเสธที่จะปฏิบัติตามคำร้องขอได้
ในกรณีที่การร้องขอดังกล่าวขัดกับกฎหมายหรือฐานกฎหมายที่ใช้อ้างอิง
5.
สิทธิในการขอโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคล (right to data portability)
ลูกค้าทุกท่านสามารถใช้สิทธิในการขอโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของตนไปยังหน่วยงานหรือองค์กรอื่นแต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นข้อมูลที่รับจากเจ้าของข้อมูลโดยตรงและเป็นข้อมูลที่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล
6. สิทธิในการคัดค้านข้อมูลส่วนบุคคล
(right
to object)
ลูกค้าทุกท่านสามารถคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในเวลาใดก็ได้ หากการเก็บรวบรวม ใช้
หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
7. สิทธิในการขอระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (right to
restriction of processing)
ลูกค้าทุกท่านมีสิทธิในการระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเอาไว้เป็นระยะเวลาชั่วคราว
โดยส่วนมากแล้วเหตุผลของการระงับการประมวลผลก็มาจากข้อมูลส่วนบุคคลนั้นยังไม่ถูกต้อง
หรือยังมีความผิดพลาดหรือมีข้อแก้ไข หรืออยู่ในระหว่างรอการตรวจสอบความถูกต้อง
หรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
8. สิทธิร้องเรียน (right to lodge a complaint)
ลูกค้าทุกท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อผู้มีอำนาจตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
หากคุณเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
เป็นการกระทำในลักษณะที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ช่องทางการติดต่อสื่อสารจากทางบริษัท
เมื่อลูกค้าเข้ามาใช้บริการของเราหรือเป็นสมาชิกบนเว็บไซต์นี้
ทางบริษัทอาจใช้ข้อมูลของท่านเพื่อจัดส่งอีเมล จดหมาย ข่าว
หรือการแจ้งข้อมูลมายังอุปกรณ์สื่อสารของท่านได้
การแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัว
ทางบริษัทอาจมีแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ในบางครั้งคราว
โดยลูกค้าทุกท่านสามารถทราบข้อกำหนดและเงื่อนไขนโยบายที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนี้ได้ผ่านทางเว็บไซต์
นโยบายนี้แก้ไขล่าสุดและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่
11 สิงหาคม 2566
การแจ้งเหตุละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
กฎหมายพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ในมาตรา มาตรา 37(4) มีการเขียนไว้ว่า การแจ้งเหตุการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลแก่สำนักงานโดยไม่ชักช้าภายใน 72 ชั่วโมง “ นับแต่ทราบเหตุ” เท่าที่จะสามารถกระทำได้ เว้นแต่การละเมิดดังกล่าวไม่มีความเสี่ยงที่จะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคล หากมีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของท่านทางบริษัทจะรีบแจ้งให้คุณทราบพร้อมกับแนวทางการเยียวยาช่องทางต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ อีเมล โทรศัพท์ จดหมาย เป็นต้น