เคล็ดลับการเลือกซื้ออุปกรณ์เครื่องเสียง
บ้านคือสถานที่ที่เราใช้เพื่อการพักผ่อนได้ดีที่สุด
และเป็นเซฟโซนที่ดีที่สุดสำหรับใครหลายๆ คน แม้ว่าบางคนจะชอบการเดินทางท่องเที่ยว แต่มันก็จะมีช่วงที่คุณรู้สึกอยากกลับไปพักผ่อนที่บ้าน
และหากิจกรรมทำร่วมกันภายในครอบครัว
ไม่ว่าจะเป็นการนอนดูหนังพร้อมป๊อปคอร์นถังใหญ่ การทำอาหารจานโปรดกินด้วยกัน
หรืออาจจะเลือกจะนอนบนโซฟาโปรดแล้วเปิดเพลงฟังจากเครื่องเสียงบ้านของคุณเอง
ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีสร้างความสุขและความสัมพันธ์ที่ดีร่วมกันได้ดีมากๆ
เลยล่ะค่ะ และถ้าครอบครัวของคุณชอบที่จะฟังเพลง ร้องเพลงชิวๆ
กันและยังไม่มีอุปกรณ์เครื่องเสียงติดภายในบ้านเราจึงขอแนะนำเคล็ดลับในการเลือกซื้ออุปกรณ์เครื่องเสียงให้ตอบโจทย์การใช้งานของคุณให้มากที่สุดค่ะ
หรือท่านใดที่เป็นมือใหม่ทางด้านเครื่องสียงก็สามารถเข้ามาอ่านเพื่อเป็นแนวทางในการเลือกใช้ได้นะคะ
โดยมีวิธีดังนี้เลยค่ะ
Cr.เว็บไซต์: pixabay
1. วัตถุประสงค์ในการใช้งาน
วัตถุประสงค์ในการใช้งาน คือเหตุผลแรกที่จะต้องคำนึงและนึกถึงเลยนะคะ ว่าเราจะนำเครื่องเสียงไปใช้งานในสถานการณ์ไหน หากเราต้องการเครื่องเสียงบ้าน
เพียงเพราะต้องการใช้ฟังสบายๆ ภายในห้องนอน
หรือห้องพักผ่อนส่วนตัวเราก็อาจใช้ชุดเครื่องเสียงขนาดไม่ต้องใหญ่นัก แต่เน้นให้เสียงเพราะไม่จำเป็นต้องเน้นเรื่องน้ำหนัก
เพราะเราคงไม่ได้ขนย้ายบ่อย หรือในทางตรงกันข้ามหากเราจำเป็นต้องขนย้ายเครื่องเสียงบ่อยๆ
ให้เลือกอุปกรณ์ติดตั้งได้ง่ายและน้ำหนักไม่หนักมากและควรหาตัวช่วยในการขนย้ายอุปกรณ์เครื่องเสียงเช่นตู้แร็ค
(Rack) จะทำให้การเคลื่อนย้ายอุปกรณ์สะดวกสบายมากขึ้นหลายเท่าเลยล่ะค่ะ
และในกรณีที่มีงานใหญ่ๆ เช่นคอนเสิร์ตก็ควรเลือกใช้ชุดเครื่องเสียงที่มีคุณภาพสูง
มีคุณภาพเสียงที่ดีและดังครอบคลุมทั่วพื้นที่ในการจัดงาน
ดังนั้นคุณควรคำนึงถึงวัตถุประสงค์ในการใช้งานก่อนซื้อนะคะ เพราะจะสามารถให้คุณใช้งานเครื่องเสียงได้คุ้มค่ามากที่สุดค่ะ
2. พื้นที่ในการจัดงานและจำนวนผู้ฟัง
ขนาดพื้นที่ในการจัดงานก็เป็นสิ่งที่ควรคำนึงก่อนในการเลือกซื้อหรือเลือกใช้อุปกรณ์
เราควรไปสำรวจพื้นที่จัดงานก่อนและหาข้อมูลจำนวนคนที่มาร่วมในงานด้วยว่าประมาณกี่คน
เพื่อให้ได้เสียงที่ดังครอบคลุมพื้นที่และผู้ฟังทุกท่านได้ยินอย่างชัดเจน
หากพื้นที่ในการจัดงานมีขนาเล็กก็ใช้เครื่องเสียงชุดเล็กแต่ถ้าเป็นงานใหญ่มีพื้นที่กว้างก็ต้องใช้เครื่องเสียงชุดใหญ่เพื่อให้เสียงครอบคลุมพื้นอย่างทั่วถึง
ดังนั้นก็ต้องใช้เครื่องเสียงที่มีขนาดพอเหมาะกับจำนวนผู้ฟังและสถานที่จัดงาน
ใช้ลำโพงที่พอดีเพื่อให้ได้ยินกันอย่างทั่วถึงค่ะ
Cr.เว็บไซต์: pixabay
3. งบในการจัดซื้อ
การวางแผนในการใช้เงินก็สำคัญนะคะ
เราควรวางแผนในการจัดการงบประมาณและวางขอบเขตการใช้เงินว่าจะใช้งบเท่าไหร่ในการซื้ออุปกรณ์เครื่องเสียงแต่ละตัว
เราต้องคำนึงถึงเครื่องเสียงที่มีคุณภาพที่เหมาะสมและคุ้มค่ากับงบประมาณของเราที่สุด และเราต้องศึกษาเครื่องเสียงแต่ละแบรนด์ก่อนว่ามีข้อดีหรือข้อเสียต่างกันมาแค่ในแล้วท้ายที่สุดก็นำราคามาเปรียบเทียบกันว่าแบบไหนคุ้มค่าและเหมาะสมกับเรามากที่สุดเครื่องเสียงที่มีคุณภาพราคาก็จะสูงตามราคา
แต่ก็มีแบบราคาย่อมเยาและคุณภาพที่ดีเหมือนกัน ดังนั้นคุณควรหาข้อมูลให้ดีๆ
ก่อนที่จะซื้อนะคะ
4. ประกันสินค้าจากร้านค้า
เราขอแนะนำเลยนะคะก่อนที่จะตัดสินใจซื้อเครื่องเสียงสักตัวก็ควรหาเครื่องเสียงที่มีประกันด้วย
เพราะมันจะเป็นการรับประกันว่าสินค้าจะมีคุณภาพในระดับหนึ่งและหากสินค้ามีปัญหาใดๆ
เราก็สามารถทำเรื่องเครมหรือส่งซ่อมได้เลย ไม่ต้องเสียเงินในการซื้อใหม่ จึงทำให้เราไว้วางใจในการใช้สินค้าตัวนั้นได้
5. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือพนักงาน
หากคุณยังเป็นมือใหม่แนะนำให้หาข้อมูลให้ดีก่อนซื้อหรือหาที่ปรึกษาสักคนก่อนนะคะ
เพื่อจะเป็นแนวทางให้คุณได้ เราต้องปรึกษาหาข้อมูลจากพนักงานที่มีประสบการณ์และมีความชำนาญในเรื่องเครื่องเสียงต่างๆ
และการทำงานของเครื่องเสียงแต่ละชนิดว่าจะตอบโจทย์การใช้งานของเรามาแค่ไหน
และแต่ละชนิดมีข้อดีและข้อเสียต่างกันอย่างไรบ้าง การศึกษาข้อมูลก่อนซื้อก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ
เลยทีเดียวเพราะคุณจะได้เครื่องเสียงที่ตรงกับการใช้งานและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปด้วยค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะกับ
5 เคล็ดลับในการเลือกซื้อเครื่องเสียงที่เราแนะนำไป หวังว่าคุณทั้งหลายที่เข้ามาอ่านจะได้ความแนวทางในการเลือกซื้ออุปกรณ์เครื่องเสียงที่ตรงกับการใช้งาน
และได้เครื่องเสียงที่ถูกใจนะคะ และสุดท้ายนี้หากคุณไปออกงานอีเว้นท์ใหญ่ๆ
หรืองานคอนเสิร์ตที่จำเป็นต้องเคลื่อนย้ายเครื่องเสียงไปมา
ขอแนะนำอุปกรณ์เครื่องเสียงอย่างตู้แร็ค
(Rack) นะคะ
ที่จะทำให้การทำงานของคุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นค่ะ