น็อตกับสกรูเป็นยังไง ไหนเล่าซิ

Aug 21, 2023
เรื่องทั่วไป
น็อตกับสกรูเป็นยังไง ไหนเล่าซิ


น็อตกับสกรูเป็นยังไง ไหนเล่าซิ

วันนี้เรามาทำความรู้จักกับอุปกรณ์จิ๋วแต่แจ๋วอีกอันหนึ่งกันค่ะ ซึ่งในปัจจุบันมักเกิดความเข้าใจผิดว่าน็อต (Nut) กับสกรู (Screw) นั้น เป็นอุปกรณ์งานช่างชนิดเดียวกัน ถ้าคุณคิดแบบนั้นขอบอกเลยว่าคุณคิดผิดค่ะ เพราะสองอย่างนี้เป็นคนละชนิดกัน การใช้งานและลักษณะมีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แต่ทั้งสองอย่างถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นต่องานช่างเป็นอย่างมาก นายช่างทุกคนมักมีติดตัวไว้เสมอเพราะสามารถพกไว้ใช้ได้เกือบทุกงานเลยล่ะค่ะไม่ว่าจะเป็นงานไม้ หรือในกลุ่มเหล็กและอลูมิเนียม ก็สามามารถใช้น็อตและสกรูยึดวัตถุเหล่านี้ไว้ได้อาทิเช่นตู้แร็ค (Rack) ขาตั้งไมค์ (Microphone Stand) หรือขาตั้งลำโพง (Speaker Stand) ของเราก็ใช้น็อตในการยึดสินค้าเพื่อให้มีความมั่นคง แข็งแรงต่อการใช้งาน ซึ่งน็อตและสกรูมีหน้าที่ไว้สำหรับการยึดวัตถุสองชิ้นให้ติดกัน มีหน้าที่คล้ายตะปู แต่จะอาศัยแรงหมุนเพื่อให้เกลียวเคลื่อนเจาะทะลุเข้าไปในเนื้อวัตถุให้ยึดติดกันแน่น


Cr.เว็บไซต์:Pix

สกรู (Screw) หรือหลายท่านเรียกว่า “น็อตตัวผู้” ซึ่งมีลักษณะเป็นเกลียวรอบทรงกระบอกยาว ใช้เป็นตัวหมุนเพื่อยึดเช้ากับน็อตตัวเมีย โดยประเภทของ สกรู เราจะแบ่งง่ายๆ ตามลักษณะของหัวน็อตสกรู เช่น หัวหกเหลี่ยม หัวแฉก หัวผ่า เป็นต้น

น็อต (Nut) มักเรียกกันว่า “หัวน็อต” หรือเรียกว่า “น็อตตัวเมีย” มีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์คล้ายแหวนมีรูตรงกลาง เส้นผ่าศูนย์กลางขึ้นอยู่กับลักษณะของแต่ละการใช้งาน ภายในจะมีร่องเป็นเกลียวเพื่อที่จะสามารถหมุนเข้ากับสกรูได้ หัวน็อตมีหลายประเภท เช่น หัวน็อตหกเหลี่ยม หัวน็อตติดจาน หัวน็อตกลม เป็นต้น

รูปร่างลักษณะของน็อตมีอยู่ด้วยกันหลายแบบ ในการเลือกใช้จึงควรเลือกให้เหมาะสมกับลักษณะงาน เพื่อให้นำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับอุปกรณ์ วัสดุ 


1. น็อตหกเหลี่ยม (Hex Nuts)

เป็นน็อตที่เรามักจะเห็นกันได้บ่อย ๆ ตามงานช่างทั่วไป โดยลักษณะคล้ายรูปหกเหลี่ยมเลย นั่นก็คือ มุมทุกด้านนั้นจะมีลักษณะที่เป็นเหลี่ยมทั้ง 6 ด้าน มีรูอยู่ตรงกลางที่ภายในนั้นมีลักษณะที่เป็นเกลียว เพื่อใช้ในการหมุน หรือ ขันให้เข้ากับสกรู ในการยึดวัสดุ 2 วัสดุให้แน่นเข้าหากัน


Cr.เว็บไซต์:Pix

2. น็อตหกเหลี่ยมมีบ่า (Flanged Nuts)

เป็นน็อตที่มีลักษณะคล้ายกับน็อตหกเหลี่ยมมาก มีความแตกต่างกันตรงที่ส่วนล่างของน็อตนั้นจะมีบ่ายื่นออกมา โดยเป็นที่รู้จักชื่อเหลี่ยมมีบ่า หรือ น็อตหัวเหลี่ยมมีบ่า น็อตประเภทนี้มีข้อดีตรงที่ช่วยลดขั้นตอนความยุ่งยาก ในการประกอบตัวน็อตเข้ากับแหวนรองน็อต อีกทั้งมันยังเหมาะกับงานที่ต้องการความแข็งแรง และความแน่นหนาสูงเป็นพิเศษอีกด้วย


Cr.เว็บไซต์: Wikipedia.com

3. น็อตหัวหมวก (Domed  / Acorn Nuts)

เป็นน็อตที่มีลักษณะภายในและภายนอกที่คล้ายกับน็อตหัวเหลี่ยมเหมือนกัน แต่ตรงที่ด้านบนของน็อตนั้น จะมีส่วนที่เพิ่มขึ้นมาซึ่งมีลักษณะที่ดูคล้ายคลึงกับหมวก จึงทำให้มันถูกเรียกว่าน็อตหัวหมวกนั่นเอง โดยน็อตประเภทนี้มีข้อดีตรงที่ช่วยเพื่อความสวยงามให้กับชิ้นงาน โดยการปกปิดส่วนปลายของสกรูเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้จากการเดินชนหรือเดินเฉี่ยวตัวน็อตได้


Cr.เว็บไซต์: Pixabay

4 น็อตหัวผ่า (Slotted Nuts)

มีลักษณะเป็นรูปหกเหลี่ยมเช่นกัน แต่ด้านบนของน็อตจะยื่นออกมาเป็นร่อง จึงทำให้มันมีลักษณะของการใช้งานที่แตกต่างจากน็อตประเภทอื่นๆ ก็คือจะต้องใช้สกรูชนิดพิเศษซึ่งเป็นสกรูที่มีช่องเล็กๆ ไว้เสียบกับตัวพิน โดยเมื่อทำการประกอบน็อตเข้ากับสกรูแล้วนั้น จะต้องใช้พินเสียบผ่านช่องในส่วนของสกรูให้ส่วนปลายของพินทั้ง 2 ด้าน ตกลงไปอยู่ภายในร่องของน็อต เพื่อเป็นการเพิ่มความแน่นหนาให้กับน็อตและวัสดุ 

Cr.เว็บไซต์:Wik

5. น็อตเชื่อม (Weld Nuts)

น็อตเชื่อมีลักษณะที่ใกล้เคียงกับน็อตหกเหลี่ยมมากที่สุด เพียงแต่น็อตประเภทนี้จะมีความแตกต่างกันในส่วนของการใช้งาน เพราะน็อตชนิดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับงานที่ต้องเชื่อมติดกับวัสดุอาทิเช่น งานเชื่อมเหล็ก เป็นต้น  โดยความพิเศษของตัวน็อตประเภทนี้ก็คือบริเวณมุมของน็อตจะมีส่วนขาที่ยื่นออกมาเพื่อใช้เป็นจุดเชื่อมต่อกับวัสดุอื่น ๆ อีกทั้งน็อตประเภทนี้ยังช่วยทำให้โลหะชนิดบางมีความแข็งแรงเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย

Cr.เว็บไซต์:Pix

6. น็อตล็อก (Lock Nuts)

เมื่อขันน็อตและสกรูบางชนิดทำให้เกิดการสั่นสะเทือนได้ ซึ่งส่งผลอาจทำให้เกิดการคลายตัวน็อตได้ ปัจจุบันจึงมีการพัฒนาน็อตล็อคขึ้นมา เพื่อช่วยในการป้องกันการคลายเกลียวจากงานที่มีการสั่นสะเทือน ซึ่งนิยมใช้งานโดยกว้างทั้งในงานก่อสร้าง หรืองานเครื่องยนต์ขนาดใหญ่

Cr.เว็บไซต์:Wik

7. น็อตหางปลา (Wing Nuts)

เป็นน็อตที่มีลักษณะแตกต่างจากน็อตประเภทอื่นๆ สังเกตได้จากส่วนที่ยื่นออกมาจากด้านข้างทั้ง 2 ด้าน จะมีลักษณะคล้ายกับหางของปลา โดยน็อตประเภทนี้ถูกออกแบบมาให้หางปลาสามารถใช้มือในการหมุดบิดเกลียวให้แน่นได้ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน อีกทั้งยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานได้อย่างหลากหลาย โดยเฉพาะกับงานที่ต้องใช้ความรวดเร็วในการประกอบและการถอด ไม่ว่าจะเป็นงานที่ต้องประกอบชิ้นส่วนเครื่องใช้ หรือ งานประกอบเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน


Cr.เว็บไซต์:Wik

8. น็อตสำหรับยึด (Cage Nuts)

น็อตชนิดนี้แตกต่างจากลักษณะจากน็อตทั่วไปอย่างสิ้นเชิงมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม และในส่วนของด้านข้างนั้นจะมีขายื่นออกมาโดยในวงการช่างนั้นมักจะเรียกน็อตประเภทนี้ว่าน็อตยึดแร็ค (Rack) เมื่อเราจะทำการประกอบเราจะต้องบีบขาน็อตและใส่ลงตามช่องแร็ค จึงทำให้มันเป็นน็อตที่นิยมนำมาใช้ในการยึดวัสดุอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านต่าง ๆ เข้าด้วยกัน


Cr.เว็บไซต์:Wik

9. น็อตขึ้นลาย (Knurled Nuts)

มีลักษณะเป็นวงกลม แต่มีลักษณะของการใช้งานที่คล้ายกับน็อตหางปลา ตัวน็อตขึ้นลายถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้มือหมุนได้ ไม่ต้องพึ่งพาอุปกรณ์ เครื่องมือต่างๆ เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานได้เป็นอย่างดีจึงทำให้น็อตประเภทนี้เหมาะกับงานที่ต้องถอดประกอบ หรือ ขนย้ายบ่อย ๆ อีกทั้งยังสามารถใช้กับงานที่ต้องการปรับเพิ่มหรือลดความแน่นหนาของการล็อกได้ด้วย

Cr.เว็บไซต์:Wik

สรุปคือน็อตหรือสกรู นั้นก็มีรูปร่างหลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบนั้น ก็จะถูกออกแบบมาให้เหมาะกับใช้งาน ในลักษณะที่ต่างกัน ในปัจจุบันน็อตก็จะถูกออกแบบมาให้ใช้ทั่วไปสำหรับครัวเรือนไปจนถึงน็อตที่ออกแบบมาพิเศษ สำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ ซึ่งแตกต่างไปตั้งแต่ ขนาด รูปร่าง และวัสดุ จึงจำเป็นต้องเลือกประเภทที่เหมาะสมที่สุดเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อวัสดุและอุปกรณ์