เกร็ดความรู้เรื่องสายสัญญาณเสียง

Aug 21, 2023
เรื่องทั่วไป
เกร็ดความรู้เรื่องสายสัญญาณเสียง

เกร็ดความรู้เรื่องสายสัญญาณเสียง

เราได้ทำความรู้จักอุปกรณ์เครื่องเสียงต่างๆ กันไปแล้วนะคะ จึงพลาดไม่ได้เลยที่จะมาทำความรู้จักกับสายสัญญาณที่เรามักจะใช้เชื่อมอุปกรณ์เครื่องเสียงเข้าด้วยกันเพื่อให้ระบบเสียงสมบูรณ์ ทำให้เราได้ฟังเสียงเพลงที่ไพเราะ ได้ผ่อนคลายความเครียดปล่อยใจไปกับเสียงเพลง

สายสัญญานมีไว้เพื่อเป็นอุปกรณ์ตัวกลางในการรับชมภาพและเสียงเพื่ออรรถรสความบันเทิงของคุณ แต่คุณจะได้รับชมความบันเทิงทั้งหลายได้เต็มรูปแบบหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการเลือกซื้อสายสัญญาณและเครื่องรับสัญญาณต่างๆ ว่าได้คุณภาพหรือไม่ และสายหรือตัวรับตรงรุ่นกับทีวีและเครื่องเสียงที่คุณหรือไม่ ดังนั้นคุณต้องรู้จักเกี่ยวกับประเภทสัญญาณทีวีและเครื่องเสียง เพื่อป้องกันความสับสนและการเชื่อมต่อใช้งานที่ผิดพลาด และอาจสร้างความเสียหายให้กับทีวีและเครื่องเสียงที่คุณใช้งานได้


Cr.เว็บไซต์: Pixabay

วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับระบบเสียงให้มากขึ้นกันค่ะ เพื่อเป็นการเพิ่มความเข้าใจ และการนำไปใช้ให้ได้ประสิทธิภาพที่สุด ในยุคนี้ถือเป็นยุคดิจิตอล แต่ระบบการสื่อสารและการเชื่อมต่อสัญญาณยังไม่ได้เป็นดิจิตอล 100% ยังมีอุปกรณ์บางชนิดหรือรูปแบบการเชื่อมต่อบางอย่างยังเป็นอนาล็อกอยู่ ซึ่งเราสามารถแบ่งประเภทของสัญญาณที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันมี 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ

1. สัญญาณอนาล็อก อาทิเช่น สายสัญญาณประเภทแบบบาลานซ์ (Balanced) และ สายสัญญาณประเภทแบบอันบาลานซ์ (Unbalanced)

2. สัญญาณดิจิตอล อาทิเช่น สาย MIDI  สาย USB และ สาย Optical

ต่อมาเรามาดูคุณสมบัติ การทำงาน และ ใช้งานของสายสัญญาณแต่ละสายกันค่ะ ว่ามีความพิเศษต่างกันยังไง

1.1 สายสัญญาณแบบบาลานซ์ (Balanced)

สายสัญญาณแบบบาลานซ์ได้รับการออกแบบมา เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการรบกวนทางไฟฟ้าภายนอกโดยเฉพาะ ข้างในประกอบไปด้วย สายสัญญาณ เส้นได้แก่ ขั้วบวก ขั้วลบ และขั้วดิน ด้วยระดับความแรงสัญญาณอยู่ที่ +4dBu ทำให้ได้กระแสสัญญาณในการเดินทางที่เพิ่มมากขึ้น และสามารถใช้สายสัญญาณในระยะทางที่เพิ่มขึ้น เรามาทำความรู้จักกับตัวอย่างสายสัญญาณบาลานซ์ บ้างค่ะ

สาย XLR : เป็นหนึ่งในสายสัญญาณแบบบาลานซ์ ประกอบด้วยสายสัญญาณ 3 เส้น คือขั้วบวกขั้วลบ และขั้วดิน จุดเด่นคือเป็นมาตรฐานในอุตสาหกรรมไปแล้วเพราะสามารถ รับส่งสัญญาณได้หลายรูปแบบ มีความทนทานที่สุด และไม่มีสัญญาณอื่นเข้ามาแทรก มักใช้เชื่อมไมค์โครโฟนกับมิกเซอร์หรือลำโพงเข้าด้วยกัน นับได้ว่าเป็นสายที่รับส่งสัญญาณได้สมดุลที่สุด


Cr.เว็บไซต์: Pixabay

สาย TRS : มีความคล้ายกับสาย TS แต่จะสามารถสังเกตเห็นได้เนื่องจากมีขีดสีดำ 2 ขีดที่ส่วนหัวแจ็ค สาย TRS หรือย่อมาจาก Tip  Ring  Sleeve เป็นอีกหนึ่งในสายสัญญาณแบบบาลานซ์ โดยมีสายสัญญาณขั้วบวก  ขั้วลบ และขั้วดินเป็นองค์ประกอบ สาย TRS เพียงเส้นเดียวยังสามารถใช้เชื่อมต่อสัญญาณแบบ 1 ช่องสัญญาณ (Mono) หรือ 2 ช่องสัญญาณ (Stereo) ก็ได้ ที่เราพบเห็นกันได้บ่อย ๆ ในระบบเสียงมืออาชีพ


Cr.เว็บไซต์: Pixabay

1.2 สายสัญญาณแบบอันบาลานซ์ (Unbalanced)

สายสัญญาณประเภทนี้ถูกใช้งานมาตั้งแต่ยุคสมัยก่อน และเชื่อว่าหลายท่านเคยเห็นผ่านตามาบ้างกันแล้ว นิยมในหมู่ผู้ใช้เครื่องเสียงบ้าน การทำงานของสายสัญญาณแบบอันบาลานซ์ จะไม่ได้ซับซ้อนเท่ากับ สายสัญญาณแบบบาลานซ์ โดยมีการใช้สายสัญญาณทั้งหมดสองเส้นเท่านั้นคือ ขั้วบวก และ ขั้วดิน ความแรงของสัญญาณบาลานซ์ จะอยู่ที่ -10dBv สายสัญญาณประเภทบาลานซ์ ไม่เหมาะกับงานที่ต้องเดินสายยาวๆที่เกิน 3-4 เมตร เพราะจะทำให้สูญเสียสัญญาณและทำให้เกิดเสียงรบกวนได้

สาย RCA : หรือเรียกเต็มๆว่า Radio Corporation of America มีขั้วนำสัญญาณทั้งหมด 2 เส้น คือสัญญาณขั้วบวกและมีขั้วดิน นิยมพบเห็นได้ทั่วไปโดยส่วนมากจะพบเห็นในรูปแบบสีขาว และสีแดง ซึ่งส่งสัญญาณข้างซ้าย และ ข้างขวา ในแบบ 2 ช่องสัญญาณ (Stereo) พบเห็นได้กับการใช้งานกับเครื่องเล่น ซีดี ดีวีดี เครื่องเสียงบ้านทั่วไป เป็นต้น


Cr.เว็บไซต์: Pixabay

สาย TS : ย่อมาจาก Tip Sleeve มีขั้วนำสัญญาณทั้งหมด 2 เส้น คือสัญญาณขั้วบวกและมีขั้วดินในการรับส่งสัญญาณ ซึ่งสัญญาณที่รับส่งนั้น เป็นสัญญาณ 1 ช่องสัญญาณ  TS แบ่งออกเป็น 2 ขนาด คือ 1/4 กับ 1/8 นิยมใช้ในงานแทบทุกประเภท ทั้งเดินสายภายในระบบเสียง และสายประเภท instrument cable เช่นกีต้าร์ , เบส , คีย์บอร์ด เป็นต้น ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน


Cr.เว็บไซต์: Pixabay

สาย Speakon : เป็นสายสัญญาณแบบอันบาลานซ์ที่เราไม่ค่อยเห็นกันตามบ้าน แต่ส่วนมากจะเป็นเครื่องเสียงที่มืออาชีพใช้กัน มักจะพบเห็นลักษณะการใช้เป็นสายเชื่อมต่อระหว่าง เพาเวอร์แอมป์ (Power Amplifier) เข้ากับลำโพงในวงการคนทำระบบเสียงมืออาชีพ สาย Speakon จึงเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งสำหรับใช้ทดแทนสาย TS (เฉพาะอุปกรณ์ระบบเสียงที่มี Input สำหรับสาย Speakon) เนื่องจากว่าสาย Speakon ได้รับการออกแบบมาให้ใช้กับระบบเสียงที่มีกระแสไฟสูงได้ และสามารถล็อกกับช่อง Input ได้ 


Cr.เว็บไซต์: Wikipedia.com

สาย Banana Plug : สายชนิดนี้มีต้นกำเนิดจากประเทศฝั่งยุโรป นิยมใช้กันตามเครื่องเสียงภายในบ้าน เชื่อมต่อระหว่างเพาเวอร์แอมป์ (Power Amplifier)  เข้ากับลำโพง โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุดลำโพงโฮมเธียเตอร์ จะมีลักษณะความคล้ายคลึงกับสาย RCA  แต่สาย Banana Plug ก็มีโครงสร้างที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน และได้รับการออกแบบมาทำให้การเชื่อมต่อมีความเรียบร้อย ลดความยุ่งเหยิง และปลอดภัยยิ่งขึ้น 


Cr.เว็บไซต์: Wikipedia.com

2.1 สาย MIDI

MIDI ย่อมาจาก Musical Instrument Digital interface เป็นสายเคเบิลดิจิตอลที่ใช้งานกับเครื่องดนตรี (MIDI) ร่วมกับคอมพิวเตอร์ เช่น Syntheser, Sound Module, Controller ต่างๆ เป็นรูปแบบดิจิตอล สาย MIDI ใช้ให้ส่งข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องบันทึกเสียงดิจิตอล ส่วนหัวประกอบด้วยหมุดห้าเส้น หมุดถูกจัดเรียงในครึ่งวงกลม 180 องศา ความยาวของสายควรจะยาวไม่เกิน 6 เมตร เพื่อประสิทธิภาพของสัญญาณเสียง ควรสายเคเบิลคุณภาพสูง\


Cr.เว็บไซต์: Wikipedia.com

2.2 สาย USB

ปัจจุบันนิยมใช้มาก สาย USB ย่อมาจาก Universal Serial Bus ที่ใช้ในการเล่นไฟล์เพลงจะเป็นชนิดแบบ Type A  Type B เป็นการส่งสัญญาณแบบดิจิตอล จะเห็นช่องต่อแบบนี้ส่วนมากในเครื่องปริ้น มิกเซอร์ดิจิตอลลำโพงคอมพิวเตอร์ ลำโพมอนิเตอร์ เพื่อรองรับความละเอียดไฟล์เสียงที่สูงขึ้น เหมาะกับการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์กับลำโพง หลายๆ บริษัทผลิตเครื่องเสียงเริ่มหันมาผลิตลำโพง หรืออุปกรณ์เสียง ให้มีช่องการเชื่อมต่อสายสัญญาณแบบ USB มากขึ้นแล้ว


Cr.เว็บไซต์: Pixabay

2.3 สาย Optical

เป็นอีกหนึ่งสายสัญญาณเสียงที่พบกันได้อย่างแพร่หลายในวงการเครื่องเสียง และทีวี หัวต่อแบบ Optical เป็นหัวต่อที่ค่อนข้างดีในการส่งสัญญาณดิจิตอล วัสดุสายที่เป็น Fiber Optic ส่งสัญญาณได้ดีกว่าข้อต่อทั่วไป และลำโพงหลายแบรนด์ในปัจจุบันก็ยังรองรับการเชื่อมต่อแบบนี้อยู่ จุดเด่น คือ จะมีแผ่นพลาสติกปิดช่องอยู่ ตอนเสียบจะใช้หัว Optical ดันเข้าไปเสียบได้พอดี


Cr.เว็บไซต์: Wikipedia.com

ในยุคดิจิตอลนี้เราไม่อาจปฏิเสธความก้าวหน้าเทคโนโลยีได้ โดยเฉพาะปัจจุบันการส่งสัญญาณเสียงนั้น ไม่ได้ถูกจำกัดการส่งเฉพาะบนสายอนาล็อกแบบเดิมๆ เราจึงต้องตามเทรนด์ให้ทันสมัย และทั้งหมดข้างต้นนี้ก็คือสายสัญญาณประเภทต่างๆ มีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้เลยใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้นควรเลือกสายสัญญาณมาใช้งานกับระบบเครื่องเสียงของคุณให้เหมาะสมกับการใช้งาน มีคุณภาพที่ดีที่สุด เพื่อการส่งต่อสัญญาณภายในระบบเสียงของคุณ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด