ไมค์โครโฟนมีกี่ประเภทกันนะ
ถ้าพูดถึงไมค์โครโฟน
(Microphone)
หรือในปัจจุบันเรียนสั้นๆ ว่าไมค์ ซึ่งเราจะสามารถเห็นได้ทั่วไปเพราะเป็นอุปกรณ์ที่หลายๆ
อาชีพที่นิยมใช้ และเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ใช้ทุ่นแรงในการใช้เสียง
โดยไมค์โครโฟนจะทำหน้าที่โดยรับเสียงแล้วแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้า เพื่อประมวลผลในเครื่องขยายเสียงต่างๆ เหมาะที่จะใช้ในพื้นที่สาธารณะ และตอนนี้ยังถูกนำใช้ประโยชน์หลายด้านที่เห็นได้บ่อยคือ
ทั้งด้านการสื่อสาร การบันทึกเสียง ระบบคาราโอเกะ เครื่องช่วยฟัง อุตสาหกรรมภาพยนต์
งานกระจายเสียงและแพร่ภาพทางวิทยุและโทรทัศน์
ไมโครโฟนมีการออกแบบหลากหลายตามการใช้งานโดยส่วนใหญ่ที่ใช้งาน
โดยถูกออกแบบมาแบ่งได้ 2 ประเภทค่ะ
1. ไดนามิค ไมโครโฟน (Dynamic microphone) เป็นการทำงานด้วยการเหนี่ยวนำของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้านิยมใช้มากที่สุด เหมาะกับงานใช้งานในที่สาธารณะ
การใช้งานทั่วไป จนถึงการใช้งานการร้องเพลง
เพราะจะครอบคลุมทุกคลื่นความถี่และให้ความหนักแน่นของเสียงอีกทั้งยังมีความคงทนที่สูง
2. คอนเดนเซอร์ ไมโครโฟน (Condenser
microphone) คือแบบการเปลี่ยนแปลงค่าประจุไฟฟ้า เหมาะกับการใช้งาน
ในด้านของเสียงสตูดิโอ ที่มีการเก็บเสียงร้องเพลง หรือเสียงพูด
หรือใช้เพื่องานเก็บเสียงได้ทุกเสียง เช่นเสียง ลม เสียงการเล่นดนตรีเป็นต้นค่ะ
ไมค์โครโฟนมีหลายชนิดและมีวิธีใช้งานต่างกัน
คุณควรทราบถึงลักษณะของประเภทงานที่ต้องการใช้งานไมโครโฟน
และทำการเลือกประเภทไมโครโฟนให้เหมาะสมกับการใช้งาน
1.
ไมโครโฟนแบบมีสาย (Wired Microphone) เป็นไมโครโฟนแบบไดนามิค ที่มีลักษณะโครงสร้างภายนอกแบ่งได้ 3 ส่วน คือ ส่วนรับคลื่นเสียง ส่วนของลำตัวที่บรรจุวงจรอิเล็กทรอนิกส์
และสายนำสัญญาณหรือที่เรียกว่าสายไฟ เป็นไมค์โครโฟนที่เห็นได้ทั่วไป มีคุณภาพเสียงที่นุ่มนวล
มีความทนทานสูง สามารถป้องกันคลื่นเสียงรบกวนจากด้านอื่นได้เป็นอย่างดี
ใช้งานง่ายสามารถเสียบเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องขยายเสียง
มีสวิตช์เปิด-ปิดที่ด้ามจับใช้งานได้ทันที
เหมาะสำหรับใช้ในงานที่ต้องเคลื่อนย้ายไปมาในระยะไกลได้ เช่น ร้องเพลง
พูดบรรยายในห้องประชุม ห้องสัมมนา โรงงาน โรงเรียน หรือองค์กรต่างๆ
2. ไมโครโฟนแบบไร้สายหรือไมค์ลอย
(Wireless
Microphone) เป็นไมโครโฟนที่มีลักษณะคล้ายไมโครโฟนทั่วไป
เพียงแต่มีคุณสมบัติพิเศษ คือ ส่งคลื่นเสียงแบบไร้สาย
โดยมีการพัฒนาวงจรภายในให้สามารถกระจายเป็นคลื่นความถี่วิทยุ
ทำให้แปลงคลื่นเสียงไปยังเครื่องขยายเสียงได้ทันที ทำงานโดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่
มีสวิตช์เปิด-ปิดในตัว สามารถลดเสียงรบกวนจากด้านข้างได้
ให้คุณภาพของเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญพกพาใช้งานได้สะดวกทุกที่
จึงสามารถนำมาใช้งานได้หลากหลายทั้งพูดบรรยายในห้องสัมมนา ร้องเพลงคาราโอเกะ
รายงานข่าวสด การแสดงดนตรีสด งานพิธีกร งานอีเวนต์ เป็นต้น
3. ไมโครโฟนแบบก้านยาวหรือแบบคอห่าน
(Gooseneck
Microphone) เป็นไมโครโฟนแบบคอนเด็นเซอร์
ที่มีลักษณะของโครงสร้างประกอบด้วยไมโครโฟนรับคลื่นเสียง ก้านรับสัญญาณเสียง ฐานตั้งโต๊ะ
และสายส่งสัญญาณไปยังเครื่องขยายเสียง
ซึ่งสามารถเลือกทำงานโดยใช้พลังงานแบตเตอรี่หรือไฟเลี้ยงก็ได้
ก้านรับสัญญาณเสียงไมโครโฟนสามารถปรับได้โดยการบิดให้โค้งหรืองอไปในทิศทางต่างๆ
ตามที่ผู้ใช้ต้องการ มีปุ่มปรับระดับความดังเสียง มีสวิตซ์เปิด-ปิดไมโครโฟนขณะพูด
และสามารถเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องเสียงได้
จึงเหมาะนำมาใช้ประกาศหรือประชาสัมพันธ์ภายในห้องประชุม ห้องสัมมนา โรงเรียน
โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้าต่างๆ
4. ไมโครโฟนไร้สายแบบคลิปหนีบ
(Wireless
Microphone Clip Type) เป็นไมโครโฟนขนาดเล็ก
ที่มีลักษณะของโครงสร้างประกอบด้วยไมโครโฟนรับคลื่นเสียง คลิปหนีบ สวิตช์เปิด-ปิด
เสารับสัญญาณ และเครื่องส่งสัญญาณไปยังเครื่องขยายเสียง
ทำงานโดยใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ซึ่งสามารถใช้งานได้สะดวกโดยนำไมโครโฟนไปหนีบไว้ที่ปกคอเสื้อและเครื่องส่งสัญญาณแขวนไว้ตรงเอวกางเกง
ทำให้คุณภาพเสียงดี ชัดเจน ขจัดเสียงรบกวนด้านข้างได้ดี นอกจากนี้ยังสามารถรองรับสัญญาณเสียงเพื่อต่อขยายเสียงผ่านเครื่องขยายเสียง
มิกเซอร์หรือตู้ขยายเสียงล้อลากได้
จึงนิยมนำมาใช้ในงานประเภทที่ต้องพูดและเคลื่อนที่ตลอดเวลา เช่น งานสัมภาษณ์สด
งานพิธีกร งานแสดงละครเวที งานแสดงคอนเสิร์ต งานพรีเซ็นสเตชั่น หรืองานอื่นๆ
ที่ต้องการ
5. ขาตั้งไมโครโฟน (Microphone Stand) เป็นอุปกรณ์เสริมที่ใช้สำหรับวางไมโครโฟน มีลักษณะเป็นท่อนทรงกระบอก มีฐานตั้งพื้นที่มั่นคงแข็งแรง
และมีความทนทานสูง
ใช้งานง่ายโดยนำมาประกอบใช้งานร่วมกับไมโครโฟนประเภทมีสายและไร้สายชนิดไดนามิคไมโครโฟน
พร้อมคอจับไมค์ที่สามารถปรับทิศทางการสวิงได้หลายระดับและคอจับไมค์ต้องมีความแข็งแรง
มั่นคงเพื่อที่จะใช้ยึดไมค์ไว้ได้ดี ขาตั้งไมค์จึงเป็นอุปกรณ์เสริมที่สามารถใช้งานทั่วไปได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง
เช่น ห้องประชุม งานแสดงคอนเสิร์ต งานประกวดร้องเพลง งานพิธีกร งานอีเวนท์
และอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ทั้งนั้นควรจะเลือกขาตั้งไมค์ให้เหมาะแก่การใช้งานด้วย
อาทิเช่นถ้าในการนั่งประชุมก็อาจจะใช้ขาตั้งแบบสั้น
ก็จะทำให้ใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ท้ายที่สุดนี้ไมค์โครโฟนในปัจจุบันมีหลากหลายแบบ
หลากหลายแบรนด์และยังมีการใช้งานที่แตกต่างกันไป ดังนั้นแนะนำให้ทุกท่านเลือกไมโครโฟนให้เหมาะสมกับการใช้งาน
และเลือกไมโครโฟนที่มีคุณภาพเพื่อที่จะได้ตอบโจทย์การใช้งานให้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างดีที่สุดนะคะ