อันตรายและการป้องกันจากเครื่องใช้ไฟฟ้า!!

Aug 19, 2023
เรื่องทั่วไป
อันตรายและการป้องกันจากเครื่องใช้ไฟฟ้า!!


อันตรายและการป้องกันจากเครื่องใช้ไฟฟ้า!!

ในปัจจุบันนี้ไม่สามารถเถียงได้เลยว่าการใช้ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการใช้ชีวิตในแต่ละวันเพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าแต่ละชนิดนั้นมีทั้งประโยชน์และโทษ หากใช้อย่างถูกต้อง ถูกวิธี ก็จะมีคุณค่าเป็นสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกได้มากๆ ใช่ไหมล่ะคะ อาทิเช่น โทรศัพท์ก็นับว่าเป็นเป็นปัจจัยที่ 5 ของผู้คนในโลกสมัยใหม่นี้ นั้นก็ต้องใช้ไฟฟ้าในการเติมแบตเตอรี่ และถ้าหากว่าคุณทำอาชีพที่ต้องใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหลายชนิดเช่นทำงานเกี่ยวกับเครื่องเสียงนับว่าเสี่ยงอันตรายอยู่พอสมควร เพราะต้องใช้ไฟฟ้าจำนวนมากก็อาจจะมีอันตรายตามมาได้หากไม่ระวังตัวให้ดี เพราะเราก็รู้อยู่กันดีอยู่แล้วนะคะว่าไฟฟ้ามีอันตรายแค่ไหน มันอาจจะทำให้คุณเจ็บแปล๊บๆ หรือมากที่สุดอาจจะเกิดอันตรายจนถึงแก่ชีวิตได้เลย แต่ว่าเราก็สามารถหลีกเลี่ยงจากอันตรายนี้ได้ รบกวนอ่านบทความนี้สักนิดอาจจะเป็นประโยชน์ต่อคุณได้


Cr. เว็บไซต์ Pixabay


Cr. เว็บไซต์ Pixabay


อันดับแรกเราขอแนะนำตู้แร็ค (Rack) เป็นอุปกรณ์ช่วยจัดเก็บอุปกรณ์เครื่องเสียงเพื่อให้คุณใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ได้สะดวกและสามารถจัดเก็บสายไฟให้เป็นระเบียบได้ ดังนั้นตู้แร็คจะเป็นอุปกรณ์ที่ทำให้คุณหลีกเลี่ยงอันตรายจากไฟฟ้าได้แน่นอนค่ะ

อันตรายจากไฟฟ้า

มาเริ่มกันเลยค่ะ คุณรู้จักไฟฟ้าดีแค่ไหนกัน แม้ว่าอันตรายจากไฟฟ้าจะพบได้น้อยกว่าอันตรายจากน้ำร้อนลวก หรือ บาดเจ็บจากของร้อน แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าความรุนแรง และอันตรายจากไฟฟ้านั้นเสี่ยงต่อชีวิตมากจริงๆ


Cr. เว็บไซต์ Pixabay

1. ไฟฟ้าลัดวงจร (Short Circuit) หลายๆ ท่านคงจะได้ยินบ่อยจากข่าวไฟไหม้ใช่ไหมล่ะคะ ซึ่งข้อสันนิษฐานแรกของเหตุไฟไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร คงรู้ถึงอันตรายและความเสียหายที่เกิดขึ้นว่ามากขนาดไหน และสาเหตุ มาจากฉนวนไฟฟ้าชำรุดหรือเสื่อมสภาพ แรงดันที่ใช้เกินขนาดหรือมีกระแสไฟฟ้าเกินขนาดของสายไฟฟ้าและถ้าคุณใช้ไฟฟ้าที่ไม่ถูกต้อง ติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ได้มีการตรวจสอบระบบไฟฟ้าให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน  เมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจรแล้วจะมีส่งผลให้ สายไฟฟ้าหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าชำรุดเสียหาย อาจทำให้เกิดเพลิงไหม้ ทรัพย์สินเสียหาย และบุคคลที่อยู่ในที่เกิดเหตุได้รับอันตรายบาดเจ็บหรือเสียชีวิตได้


Cr. เว็บไซต์ Pixabay

2. ไฟฟ้าดูด (Electric Shock) เชื่อได้เลยค่ะว่ามีผู้คนจำนวนมากเคยมีประสบการณ์ไฟฟ้าดูดหรือไฟดูด เป็นประสบการณ์ที่ไม่ดีและไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นเลยใช่ไหมคะ แต่บางครั้งเราก็ไม่อาจจะเลี่ยงได้ ไฟฟ้าดูดเกิดจากการที่กระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายมีผลทำให้กล้ามเนื้อเกิดการเกร็ง จนไม่สามารถสะบัดให้หลุดได้ ปริมาณของซึ่งกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านร่างกายทำให้เสียชีวิต หรือพิการ และท่านใดเคยไม่สวมรองเท้าแล้วไฟฟ้าดูดบ้างคะ เป็นเพราะว่าพื้นดินเป็นส่วนหนึ่งของวงจรไฟฟ้า มีแรงดันทางไฟฟ้า ดังนั้นเมื่อเราสัมผัส ส่วนใดใดที่มีแรงดันไฟฟ้าขณะที่ร่างกายยืนอยู่บนพื้นดินกระแสไฟฟ้าก็จะไหลผ่านร่างกายลงดินครบวงจรจึงทำให้ถูกไฟฟ้าดูดค่ะ และคุณรู้หรือไม่คะว่าจริงๆ แล้วไฟฟ้าดูดยังแบ่งออกได้เป็น 2 แบบคือ

2.1 การสัมผัสโดยตรง (Direct Contact) คือการที่ส่วนร่างกายของเราสัมผัสถูกส่วนที่มีไฟฟ้าโดยตรง เช่น สายไฟฟ้ารั่ว เพราะฉนวนไฟฟ้าชำรุดแล้วเราเอามือไปจับหรือจากการที่เราเอาโลหะหรือตะปูแหย่เข้าไปในปลั๊ก

2.2 การสัมผัสโดยอ้อม (Indirect Contact) ก็คือการที่ส่วนของร่างกายเราไม่ได้สัมผัสส่วนที่มีไฟฟ้าโดยตรงแต่เกิดจากการที่เราไปสัมผัสกับ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีไฟฟ้ารั่ว ไฟฟ้าจึงปรากฏอยู่บนพื้นผิวของเครื่องใช้ไฟฟ้านั้น ๆ เมื่อเราไปสัมผัสโดนก็เลยถูกไฟฟ้าดูด


Cr. เว็บไซต์ Pixabay


Cr. เว็บไซต์ Pixabay


วิธีป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า

ในเมื่อเรารู้ถึงอันตรายของไฟฟ้าแล้ว ก็มาดูการป้องกันที่ถูกวิธีและลดความเสี่ยงจากอันเกิดจากไฟฟ้าเพื่อเป็นการป้องกันอันตรายให้กับตนเองและคนรอบข้าง ได้ค่ะ


Cr. เว็บไซต์ Pixabay

1. เราควรเลือกซื้อเครื่องใช้ที่ได้รับรองจากการทดสอบมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม คุณภาพของสินค้าเป็นอย่างแรกเลยค่ะที่เราควรคำนึงถึงเมื่อเราซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า หรืออุปกรณ์ไฟฟ้า

2. เมื่อเราได้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคุณภาพดีแล้ว ต่อมาเราคำนึงถึงวิธีการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมดต้องเป็นไปตามหลักและกฎความปลอดภัย โดยมีช่างไฟฟ้าผู้ชำนาญการเป็นคนดูแล

3. ถ้าเราหมั่นตรวจสอบระบบไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมออาทิเช่น เต้าเสียบ เต้ารับ ฉนวนไฟฟ้า สวิตช์ ก็จะเป็นการป้องกันอันตรายที่ได้ประสิทธิผลมากที่สุด เพราะถ้าเราตรวจสอบแล้วเจอระบบไฟฟ้าที่มีปัญหาก็จะสามารถแก้ไขได้ทันเวลา

4. บำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยช่างผู้ชำนาญการ อย่างสม่ำเสมอ และควรอ่านคู่มือเพื่อเป็นแนวทางให้คุณได้รู้ถึงวิธีการดูแลอย่างถูกวิธี

5. การต่อสายกราวด์ของระบบไฟฟ้าลงดิน ซึ่งจะต้องเดินสายไฟฟ้าให้มีระบบต่อลงดิน  รวมทั้งต้องติดตั้งเต้ารับไฟฟ้าชนิดที่มีขั้วสำหรับสายซึ่งจะเป็นการป้องกันเมื่อคุณสัมผัสหรือใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีไฟรั่ว

6. ใช้การหุ้มฉนวนส่วนที่มีไฟฟ้ามีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดไฟรั่ว  (Insulation of Live Parts) เช่นสายไฟ หรือส่วนที่มีโอกาสสัมผัสส่วนทองแดงหรือโลหะที่มีไฟฟ้าได้

7. เบรกเกอร์จะไม่สามารถตัดวงจรได้เนื่องจากไฟฟ้าดูดได้ ดังนั้นจึงต้องมีอุปกรณ์ตัดไฟฟ้ารั่วอัตโนมัติมาร่วมทำงานด้วยโดยใช้อุปกรณ์ประเภท RCD (Residual Current Devices) ทำหน้าที่ตัดกระแสไฟฟ้ารั่วได้

และทั้งหมดนี้คือวิธีการป้องกันและอันตรายจากไฟฟ้า และสามารถทำตามได้ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ คุณควรปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด และหวังว่าทุกท่านจะไม่ประมาทในการใช้ไฟฟ้าเพราะโทษของมันทำให้เกิดความเสียหายได้อย่างมหันต์ ในสุดท้ายนี้เราหวังว่าบทความของเราจะมีประโยชน์ต่อทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ

 


Cr. เว็บไซต์ Pixabay