อุปกรณ์เครื่องเสียงมีอะไรบ้าง

ถ้าพูดถึงอุปกรณ์เครื่องผู้คนส่วนใหญ่ก็จะคิดถึงไมค์โครโฟน หรือลำโพงเป็นอันดับแรกๆ กันใช่ไหมล่ะคะ เพราะมักจจะเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน แต่จริง ๆ แล้วนั้นอุปกรณ์เครื่องเสียงนั้นมีอยู่อีกหลากหลายชนิดเลยล่ะค่ะ ดังนั้นสำหรับบทความนี้เป็นบทความที่อยากจะแนะนำ ให้มือใหม่ หรือผู้ที่เริ่มอยากจะเรียนรู้จะได้รับความรู้เกี่ยวกับหลักการทำงานของอุปรกรณ์เครื่องเสียงเบื้องต้น เพื่อเสริมสร้างความรู้พื้นฐานสู่มืออาชีพได้ค่ะ

Cr.เว็บไซต์: Pixabay

คำว่าเครื่องเสียง หมายถึง อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่ขยายสัญญาณเสียงหรือ เกี่ยวข้องกับกระบวนการขยายเสียง การถ่ายทอดเสียง การกระจายเสียง เป็นต้น โดยอุปกรณ์เครื่องเสียงเบื้องต้น จะประกอบด้วย 3 ส่วนหลักๆ  ไม่ว่าจะเป็นระบบเสียงขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ ล้วนแต่มีองค์ประกอบที่เหมือนกัน นั่นก็คือ

1. ภาคอินพุต (INPUT) หรือ แหล่งที่มาของเสียง มีหน้าที่รับสัญญาณเข้าเป็นจุดแรกที่รับสัญญาณจากแหล่งกำเนิดเสียง เช่น เสียงร้องเพลง เสียงพูด เสียงเครื่องดนตรี เครื่องเล่นซีดี วีซีดี คอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นมัลติมีเดียต่าง ๆ เพื่อเตรียมส่งไปยังภาคโปรเซสเซอร์

2. ภาคโปรเซสเซอร์ (Processor) หรือภาคประมวลผล ทำหน้าที่นำสัญญาณที่รับมาจากภาคอินพุต เพื่อมาปรับแต่งด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ก่อนส่งไปขยายเสียงหรือภาคเอ้าพุท

3. ภาคเอ้าพุท (OUTPUT) เครื่องขยายเสียงหรือเพาเวอร์แอมป์ ทำหน้าที่ขยายสัญญาณด้านเอ้าพุทให้มีขนาดที่ใหญ่กว่าสัญญาณที่อินพุทเข้ามา ก่อนต่อออกไปหาลำโพง

เป็นยังไงกันบ้างคะ องค์ประกอบเสียงไม่ซับซ้อนและสามารถทำให้เราเข้าใจกระบวนการการทำงานของเสียงได้ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ ต่อมาที่พลาดไม่ได้เลยคือเราต้องมาทำความรู้จักกับอุปกรณ์เครื่องเสียงต่างๆ ที่ทำหน้าที่หลักๆ ในระบบเสียง ซึ่งคุณอาจจะคุ้นเคยอยู่แล้วหรือ อาจจะไม่รู้จักเลยก็ได้

อุปกรณ์เครื่องเสียง

1.  ไมโครโฟน (Microphone)

เป็นอุปกรณ์หลักที่สำคัญในการรับและบันทึกข้อมูลเสียง ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนคลื่นเสียง (Sound Wave) จากแหล่งกำเนิดเสียง เช่น เสียงพูด เสียงเพลง เสียงธรรมชาติ หรือเสียงเครื่องดนตรี เข้ายังสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่นำเสียงเหล่านี้มาประมวลผลหรือแสดงผลได้ โดยในปัจจุบันไมโครโฟนมีการแบ่งรูปแบบหรือประเภทต่าง ๆ เพื่อเหมาะสมกับการใช้งาน

Cr.เว็บไซต์: Pexels

เครื่องบันทึกเสียงได้ถูกพัฒนาโดยได้นำองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น ไมโครโฟน ผสมสัญญานเสียง ช่องเชื่อมต่อสัญญาณ อุปกรณ์บันทึกข้อมูล การ์ดเสียง ลำโพง มารวมกันในอุปกรณ์ขนาดที่สามารถพกพาได้สะดวกสบาย โดยเครื่องบันทึกเสียงในปัจจุบันได้ถูกใส่คุณสมบัติต่าง ๆ เช่น สามารถบันทึกเสียงได้ 2 ทิศทาง สามารถเชื่อมต่อสัญญานเสียงอื่นเข้ามาในอุปกรณ์ได้ และอีกมากมาย

Cr.เว็บไซต์: Pixabay

3.  อุปกรณ์ผสมสัญญาณเสียง (Mixer)

อุปกรณ์ผสมสัญญาณเสียง เป็นเครื่องมือสำหรับบันทึกและแก้ไขเสียงในแต่ละแทร็กได้อิสระ เช่น สามารถควบคุมระดับความดังของเสียง (Volume) จังหวะ (Tempo) และระงับเสียง (Mute) ซึ่งการแก้ไขและจัดการแทร็กเสียงต่าง ๆ  ได้ตามความต้องการของคุณ  นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มเอฟเฟกต์เสียงแบบพิเศษ เช่น เสียงคอรัส เสียงเอคโค (Echo) หรือเสียงจากอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ มิกเซอร์จะถูกใช้ในงานอันหลากหลาย ทั้งงาน ห้องอัดเสียง (recording studios) ระบบเสียงสาธารณะ (Public address systems) ระบบขยายพลังเสียง (Sound reinforcement systems) งานแพร่กระจายเสียง (Broadcasting) ทีวี (Television) และงานตัดต่อหนัง (filmpost-production) อีกด้วย

Cr.เว็บไซต์: Pixabay

4. อีควอไลเซอร์ (Equalizer) 

อีควอไลเซอร์ หรือ เรียกสั้นๆ ว่า EQ คือ อุปกรณ์ทำหน้าที่ปรับแต่งเสียง บูส หรือคัดความถี่เสียง (frequency) ให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้ตรงตามความต้องการในการใช้งานในกิจกรรมต่างๆของคุณ และอีควอไลเซอร์ (Equalizer) เหมาะสมในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นงานดนตรีขนาดเล็ก งานประชุม และงานคอนเสิร์ตขนาดใหญ่

Cr.เว็บไซต์: livepapic.blogspot.com

5. คอมเพรสเซอร์ (Compressor)

คอมเพรสเซอร์คือ อุปกรณ์ด้านระบบเสียงชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่ควบคุมระดับความแรงของสัญญาณเสียง ไม่ให้เกินค่าที่เรากำหนดไว้ ทำงานโดยการ บีบอัด หรือกดระดับสัญญาณเสียง  จึงให้มีความหนา กลม กระชับมากขึ้น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในงานมิกซ์เสียงดนตรีสด

Cr.เว็บไซต์: Pixabay

6. เครื่องขยายเสียง  แอมพลิฟายเออร์ (Amplifier)

แอมพลิฟายเออร์ หรือที่เราเรียกกันง่ายๆว่าแอมป์ (Amp.) คือ อุปกรณ์ที่ส่วนใหญ่ทำการเปลี่ยนหรือเพิ่มกว้างของคลื่นเสียงซึ่งก็คือความดังของสัญญาณให้มากขึ้น หรือพูดง่ายๆก็คือเป็นตัวเร่งให้เสียงดังขึ้นนั่นเอง แต่ในปัจจุบันก็มีแอมป์ที่มีคุณภาพจำนวนไม่น้อยเลยที่สามารถปรับคุณภาพของเสียงได้ด้วย โดยแล้วประกอบไปด้วย 2 ส่วนซึ่งก็คือ

พรีแอมพลิฟายเออร์ (Preamplifier) หรือหลายท่านจะเรียกสั้นๆว่า พรีแอมป์ ซึ่งส่วนนี้นั้นจะทำหน้าที่ในการปรับบุคลิกของเสียง ไม่ว่าจะเป็นการปรับมวลของเสียง หรือโทนของเสียง

พาเวอร์พลิฟายเออร์ (Power Amplifier) ทำหน้าที่หลักเป็นส่วนที่ขยายให้เสียงดังขึ้น หรือเพิ่มกำลังขับให้เพียงพอกับหูฟังหรือลำโพงที่มาต่อด้วย

Cr.เว็บไซต์: Pixabay

7. ลำโพง (Speaker)

เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าเชิงกลอย่างหนึ่ง ทำหน้าที่แปลงสัญญาณไฟฟ้าให้เป็นเสียง ซึ่งลำโพงแต่ละชนิดให้เสียงที่แตกต่างกันออกไป เสียงทุ่ม เสียงแหลม และเป็นอุปกรณ์ที่อยู่ท้ายสุดของระบบเสียง ซึ่งลำโพงมีส่วนสำคัญมากที่จะบอกว่าระบบเสียงนั้นเสียง ดี และ ดัง มากแค่ไหน

Cr.เว็บไซต์: Pixabay

8. ตู้แร็ค (Rack)

เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมากๆ ซึ่งตู้แร็คจะช่วยให้สามารถจัดเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ได้ ทำให้เกิดความสะดวกในการจัดเก็บอุปกรณ์ และสามารถช่วยขนย้ายอุปกรณ์เครื่องเสียงได้สะดวกมากๆ ให้มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย และยังสามารถบริหารจัดการสายสัญญาณต่างๆ และสายปลั๊กไฟ ได้เป็นอย่างดี

ทั้งหมดที่เรารวบรวมข้อมูลมาก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของอุปกรณ์เครื่องเสียงที่เรายกตัวอย่างมาให้ผู้ที่จะเริ่มทำงานเกี่ยวกับเครื่องเสียง และหากท่านใดไม่มีพื้นฐานเกี่ยวกับเครื่องเสียงมาก่อนควรศึกษาให้ดีก่อนใช้งานนะคะ เพราะอุปกรณ์แต่ละชนิดนั้นมีราคาที่สูงพอสมควร และเพื่อการใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุดของอุปกรณ์ค่ะ